หลังจากห่างหายไปนาน ช่วงนี้จะกลับมารีวิวการเดินทางและกิจกรรมต่างๆ ทั้งๆที่ไม่ค่อยจะมีเวลา แต่ก็นะ ชอบอะ เริ่มเลยละกัน
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยาที่ผ่านมา หลังมีการลงมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแล้ว แฟลชก็เลยมีมติไม่เห็นชอบให้อยู่ห้องเฉย ๆ เลยโทรหาเพื่อนเลิฟตอนมอปลาย ที่เป็นขาเที่ยวด้วยกัน ปกติตอนนั้นจะพาเพื่อนคนนี้แว้น ๆ ไปทั่วอุบลเลย ว่าไปเที่ยวกัน
เพื่อนชื่อเมย์ เรียนโรงเรียนตำรวจ เป็นนายร้อยหญิงคนสวย ดูดีไปอีก ตอนนี้เมย์ฝึกงานที่สนสุทธิสาร อยู่ใกล้ ๆ กันแต่พึ่งได้นัดเจอกัน
เราสองคนใช้เวลาด้วยกันประมาณ 7 ชั่วโมงนิดๆ ตั้งแต่บ่ายสองครึ่งถึงสามทุ่มกว่า ๆ เดินแทบตลอดทาง ขาล้ามาก
นัดเจอกันที่ MRT (ใต้ดิน) สถานีหัวลำโพง ประตู 1
แฟลชนั่งรถเมล์สาย 73 ไปรอเมย์ที่หัวลำโพง นัดกันที่ประตู 1 พอเจอกัน เมย์ก็บ่น “หิว ๆ” ใหญ่เลย พึ่งเรียนพิเศษเสร็จแล้วก็ไม่ได้กินข้าวเที่ยงมา เห็นไหมครับ ตำรวจก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้นะจะบอก ครูก็เช่นกัน
ก็เลยจัดการซื้อข้าวโพดไปถุงนึงก่อนเพื่อนเลย หอมมาก
แล้วเราก็เดินไปจุดหมายแรกด้วยกัน “ทางม้าลาย” ไม่ใช่ละๆ
ที่แรกที่เรามาคือพิพิธภัณฑ์เยาวราช ถ้าไปกับแฟลชนี่ก็ต้องพาไปพิพิธภัณฑ์นี่แหละ เดิน ๆ ดูเย็นดี คนจีนมาไทยเยอะมาก ตั้งแต่ครั้งกระโน้น ไปดูได้ค่ะทุกคน ไม่เสียค่าเข้า
ก่อนเข้าก็ต้องถอดรองเท้าใส่ถุงหิ้ว เดิน ต๊อกแต๊กๆไปตามทาง ดูหุ่นชาวจีนที่จัดแสดงไว้ และเรื่องราวต่างๆ ของชาวจีนในสยาม
เพื่อนเราก็ต้องเช็คความเคลื่อนไหวนิดนึง ถึงเพื่อนเราจะมีแฟนแล้ว แต่ก็จีบได้นะฮ่ะ ฮ่าๆ หลวงพ่อทองคำ ที่ถ่ายมุมนี้เพราะคนเยอะมาก แขกเยอะมาก ไม่ค่อยมีจีนเท่าไหร่นะ มีแต่แขก ที่มีแต่ผู้ชายอะนะ
พอดูกันจนอิ่มแล้วก็เดิน ๆ มาขึ้นรถเมล์สาย 1 เพื่อไปท่ามหาราช เพราะเมย์บอกว่ายังไม่เคยไป เราก็พาไป ง่ายมาก
แต่ก่อนจะไปขอดื่มน้ำเย็น ๆ สักขวดดิ
เมย์บนรถเมล์ สาย 1 ท่าเตียนถนนตก
พอลงที่ท่าเตียนก็เดินเลียบ ๆ มาด้านหลังมหาลัยศีลปากร เพื่อไปท่ามหาราช แหล่งรวมคนชิค ๆ ที่กระเป๋าหนักหน่อย แต่ไม่รวมเราสองคนนะ ไปเล่นแต่ระหว่างทางก็ดันเห็นซอย ๆ นึงสะก่อน ก็เลยเดินเข้าไปดู ข้างในเป็นไรอะ คล้ายๆสลัมอินเตอร์ที่เรียกว่าชุมชนก็ว่าได้ แต่ดีนะ ทางเดินก็ดี ถึงบ้านจะเล็กแต่ก็จัดระเบียบดีมาก ไม่เหม็นเท่าไหร่
และพอเดินออกจากซอยนั้นแล้วเดินต่อ ก็ถึงได้มาถึงท่าเรือมหาราชจ้า อินเตอร์ไปอีกอะ มีขายหลายอย่าง แต่ไม่ค่อยรู้จัก รู้จักแต่เอสแอนพีและสตาร์บัค รู้จักเฉยๆนะ ไม่เคยย่างกรายเข้าไปเลย ดูกำแพง ก็แนวไปอีก เอาจักรยานมาต่อๆกัน ดีไปไหน พยายามถ่ายให้อาร์ตที่สุด ฮ่าๆ
งานถ่ายหลังก็มา ชอบปล่อยให้เพื่อนเดินนำ ถ่ายได้แต่คำว่าราชอะ โทษที ๆ กล่องไม่วายพอ มามหาราชทั้งทีก็กินอะไรสักหน่อย กินไรคะ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนจ้า กล่องละ 50 โอเคนะ อร่อยดี กินไปคุยไป แล้วก็มีป้ามาขาวเกียบกุ้ง 20 อุดหนุนป้าต่อ ใจบุญจริง ๆ สองคนนี้ ฮ่าๆๆๆเขาไม่ยอมหลบ เราก็ไม่ยอมหลบเหมือนกัน
เราก็ถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อย ๆ ไม่ทุกข์ร้อนอะไร คนมารอลงเรือ เยอะดีๆ ผมนี่พาเพื่อนไปถ่ายตรงโน้นตรงนี้ไม่ยอมหยุดเลย ใช้ยาสบู่สระผมค่ะ แซว ๆ เป็นสาวชิค ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เมย์มารอเกียบที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ ดู นีโอคาสสิคป่าว ว่าแต่นีโอคลาสสิคคืออะไร จำได้แค่นี้ ความจริงก็คือ มีคนอยู่รอบๆ เยอะมาก บางกอก เอาหล่ะ ได้เวลากลับเยาวราช จุดหมายสำคัญของเราสองคน ระหว่างรอรถเมล์สายเดิมก็คุยเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และอนาคต มาแล้วจ้า คุณน๊ากับคุณพี่สองคนนี้ ก็ฮาดี อยากกินน้ำแดงเลยอ่า ความเชื่อ ของคนไทยที่มีมาช้านาน อ้าวลงเลยป้ายไปหน่อย เลยต้องเดินๆ แล้วก็มาผ่านวงเวียนนี้นี้พอดีเลยพาข้ามไปถ่ายรูป บรรยากาศเหมือนไปเมืองจีนเลยเนอะ เที่ยวละไมไชน่าเวิลเลยจ้า เอาหล่ะ เราจะมุ่งไปถนนเยาวราชแล้ว ต้นทางที่เดินผ่านก็มีคุณลุงคุณป้าคุยกันด้วยภาษาจีน ไม่รู้จีนทางไหน ไม่รู้เรื่องเลย เดินไปคุยไป ของขึ้นชื่อของย่านนี้เลย แต่เราไม่ได้ซื้อกิน ที่ขึ้นชื่อเพราะอะไรน่ะเหรอ “มีขายเยอะมาก” เขามาเตรียมร้าน มากันแบบนี้แหละ คนเยอะดี เยาวราชจ้า ระหว่างทางก็โดนเกาลัดไปครึ่งกิโล 140 พอผ่านไปร้านสอง เค้าบอกว่าอร่อยกว่าร้านนั้นอีก พี่ก็หนูซื้อไปแล้วหน่ะ ถึงพี่จะอร่อยกว่าก็ไม่ทันละ วันนี้เพื่อนสาวฉันเลี้ยงเกี๊ยวซ่า จริง ๆ คือไม่เคยกินมาก่อนในชีวิต ให้ตายเถอะ พอกินเข้าไปก็อร่อยดีนี่น่า ตกชิ้นละ 10 บาท ซื้อ 1 ชุด 40 บาท หอมหวน ชวนชิม เราเดินตามหารถขายองุ่นที่เราเห็นก่อนไปท่าเรือมหาราช ถึงไม่เจอแต่เราก็ได้องุ่นไข่เม็ดเล็ก ๆ มา ในราคาถุงละ 80 บาท คือเขาบอกว่ามันเป็นเศษ แต่ก็ดีว่ะ อร่อย เมย์มองหาร้านอยู่ เหมือนคนหลงทางประมาณนั้น หลังจากเดินเข้าซอยโน้นออกซอยนี้เราสองคนก็ได้ร้านแล้วจ้า ร้านแรก ที่คิดว่าจะนั่ง ไม่รู้ชื่อร้านหรอก สั่งหมี่กระเชดมา 1 จาน ราคา 100 นึง นี่ราคามาตรฐานเยาวราชป่าวนะ อร่อยดี แต่แฟลชว่ามันปากไปหน่อยจ้าหลังจากกินเสร็จก็ต่อด้วยของหวานละ
อ้อ ระหว่างที่โต๊ะข้าง ๆ คิดเงิน มากันสามคน ฟาดไป พันสอง เอ้ย นี่อาหารข้างทางจริงปะเนี่ย รึเราใช้ชีวิตราคาถูกมานานนี่เลย คนเยอะมาก ขนมปังต่าง ๆ เมย์บอกมาตามรีวิว แต่แฟลชก็ไม่รู้จักหรอก สั่งๆ มีคิวด้วย ระหว่างที่รอเมย์ไปสั่งก็ถ่ายรูปเล่นไป ทั้งๆที่เมย์มาครั้งแรก เมย์ดูเชี่ยวชาญมากได้มาแล้ว ชิ้นละ 18 บาท อร่อยนะ พึ่งเคยกินดูท่าสะก่อนเถอะต้องรีบ ๆ เดี๋ยวสังขยาหายหมด (ไหล) หลังจากกินของหวานเราก็ตกลงกันว่าจะกลับ ตอนนั้นก็พึ่งทุ่มนิด ๆ เดินไปใต้ดิน ๆ หัวลำโพง เมื่อไหร่จะเสร็จนะ ใต้ดินเนี่ยเพื่อนเราเป็นข้าราชการตำรวจ แสดงบัตรแล้วก็ได้ลงใต้ดินฟรีจ้า เราก็เสียเงินตามระเบียบมาทางพิเศษ ชิค ๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปคู่กันหน่อยเพื่อนเราสวยใช่ไหม เราก็สวยนะ ฮ่าๆขอบคุณกระจกใส่ที่พอสะท้อนภาพได้เกาลัดเจ้าแรกจ้า ถึงเวลาแบ่งกันละ เพราะว่าจะจากกัน แต่พอถึงศูนย์ประชุม ก็ตัดสินใจบัดนั้น ลงทันที เดินต่อให้ขาลากไปข้างเดินไปเอาซันไบซ์ฟรีคนละสองห่อเมย์อยากไปเกาะล้าน แฟลชพาไปไม่ได้จริงๆ ทิตย์หน้าติดสอบเมย์ก็เล่าเรื่องไปฝึกงานที่กระบี่ให้ฟัง อยากไปอีกเลยนี่ๆ วันสุดท้าย สองทุ่มกว่ายังไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องกันเลยแพ็กเก็ตเที่ยวเหรอ ไม่ดี ไม่เอา มานี่เลย ร้านขายเคสโทรศัพท์ เปลี่ยนฟิล์มหน้าจอ จาก 99 เหลือ 19 บาท แบบเพชร แต่นอกจากฟิล์ม เมย์ยังได้เคสสำหรับเหน็บไว้ที่เข็มขัดและสายขยายหูฟังให้สามารถใช้ได้สองสายเข้าคิวๆแล้วก็ได้เวลา “ลา” กันจริงๆสำหรับวันนี้ ไปใครไปมัน แฟลชลงห้วยขวางและเมย์ลงสุทธิสาร
เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการนะเมย์ แต่คิดว่าชาติต้องการอีกไม่นาน